คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4164/2555
ป.อ. มาตรา 80, 276 วรรคสอง
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550 มาตรา 3
ขณะเกิดเหตุโจทก์ร่วมซึ่งมีอายุเพียง 6 ปีเศษ ทุกครั้งที่โจทก์ร่วมไปเรียนว่ายน้ำกับจำเลย ที่สระว่ายน้ำของโรงเรียน จำเลยได้พาโจทก์ร่วมเข้าไปในห้องน้ำ แล้วให้โจทก์ร่วมปีนไปนั่งบนอ่างล้างหน้า แล้วจำเลยใช้ลิ้นเลียอวัยวะเพศของโจทก์ร่วม และใช้อวัยวะเพศจำเลยถูไถอวัยวะเพศของโจทก์ร่วมแต่อวัยวะเพศของจำเลยไม่อาจล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของโจทก์ร่วมเพราะอวัยวะเพศของโจทก์ร่วมมีขนาดเล็ก โดยโจทก์ร่วมไม่ยินยอม เห็นได้ว่า จำเลยประสงค์จะใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดใส่อวัยวะเพศของโจทก์ร่วม มิใช่เพียงการใช้อวัยวะเพศของจำเลยถูไถเฉพาะภายนอกอวัยวะเพศของโจทก์ร่วมโดยไม่ประสงค์จะสอดใส่
คำเบิกความของโจทก์ร่วมดังกล่าวไม่มีเหตุให้ระแวงว่าเป็นคำเบิกความเกินความจริง เพราะโจทก์ร่วมเป็นลูกศิษย์ของจำเลย หากจำเลยไม่ได้กระทำการดังกล่าวต่อโจทก์ร่วมจริง ย่อมเป็นการยากที่โจทก์ร่วมซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศมาก่อนจะสร้างเรื่องเท็จขึ้นมาเพื่อปรักปรำบุคคลที่เป็นครูบาอาจารย์ของตน
อีกทั้งแพทย์ผู้ตรวจเบิกความว่า โจทก์ร่วมมีอาการอักเสบเป็นรอยแดงบริเวณแคมทั้งสองข้างรอบปากช่องคลอด ซึ่งสนับสนุนให้เชื่อได้ว่าจำเลยประสงค์จะใช้อวัยวะเพศของจำเลยสอดใส่อวัยวะเพศของโจทก์ร่วม
แต่เนื่องจากโจทก์ร่วมเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 6 ปีเศษ มีอวัยวะเพศค่อนข้างเล็ก เมื่อถูกจำเลยพยายามใช้อวัยวะเพศของจำเลยเสียดสีเพื่อจะสอดใส่ จึงเป็นผลให้เกิดการอักเสบดังกล่าว
พฤติการณ์การกระทำของจำเลยจึงบ่งชี้ถึงเจตนาของจำเลยได้ชัดเจนว่าจำเลยกระทำต่อโจทก์ร่วมโดยมีเจตนาที่จะข่มขืนกระทำชำเราโจทก์ร่วม หาใช่มีเจตนาเพียงแค่กระทำอนาจารไม่
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 27, 6 วรรคสอง ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2550 บัญญัติว่า การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า การกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ตามบทบัญญัติดังกล่าว จะเห็นได้ว่า กฎหมายที่แก้ไขใหม่นี้ต้องการขยายความหมายของการกระทำชำเราว่า นอกจากหมายถึงการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำต่ออวัยวะเพศของผู้ถูกกระทำแล้ว ยังรวมถึงการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับทวารหนักหรือช่องปากของผู้ถูกกระทำด้วย เท่ากับเป็นการเพิ่มอวัยวะที่ถูกกระทำขึ้นใหม่
นอกจากนี้ตามบทบัญญัติดังกล่าวยังได้เพิ่มสิ่งที่ใช้ในการกระทำ กล่าวคือ นอกจากจะกระทำชำเราโดยใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนักหรือช่องปากของผู้ถูกกระทำแล้ว ยังรวมถึงการใช้สิ่งอื่นใด เช่น การใช้อวัยวะเพศเทียมกระทำกับอวัยวะเพศ หรือทวารหนักของผู้ถูกกระทำด้วย จึงเป็นกรณีที่บทบัญญัติดังกล่าวขยายความหมายของคำว่ากระทำชำเรา ในแง่เพิ่มสิ่งที่ใช้ในการกระทำและอวัยวะที่ถูกกระทำขึ้นใหม่เท่านั้น
ส่วนกรณีอย่างไรจึงจะเป็นการกระทำชำเราสำเร็จนั้นก็คงยังคงมีความหมายอยู่ว่า จะเป็นการกระทำชำเราสำเร็จได้ต้องถึงขั้นอวัยวะเพศของผู้กระทำล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้ถูกกระทำ หรือล่วงล้ำเข้าไปในทวารหนักของผู้ถูกกระทำ หรือล่วงล้ำเข้าไปในช่องปากของผู้ถูกกระทำ หากมีการใช้สิ่งของอย่างอื่น เช่น อวัยวะเพศเทียม สิ่งของอย่างนั้นก็ต้องมีการล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศ หรือทวารหนักของผู้ถูกกระทำเช่นกัน
เมื่อข้อเท็จจริงคดีนี้รับฟังได้ว่า จำเลยใช้อวัยวะเพศของจำเลยถูไถอวัยวะเพศของโจทก์ร่วม แต่อวัยวะเพศของจำเลยไม่อาจล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของโจทก์ร่วมได้ เพราะอวัยวะเพศของโจทก์ร่วมมีขนาดเล็ก ส่วนการใช้ลิ้นเลียอวัยวะเพศของโจทก์ร่วมก็ไม่ปรากฏว่าลิ้นได้ล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของโจทก์ร่วม
การกระทำของจำเลยดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยลงมือกระทำชำเราแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามกระทำชำเราโจทก์ร่วม จำเลยเป็นครูบาอาจารย์ย่อมต้องมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แต่จำเลยกลับกระทำการที่ไม่สมควรทางเพศต่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นศิษย์ ทั้งยังเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 6 ปีเศษ โดยได้กระทำต่อโจทก์ร่วมทุกครั้งที่มาเรียนว่ายน้ำกับจำเลย ต่างกรรมต่างวาระ จำนวนมากถึง 10 ครั้ง เป็นความผิดถึง 10 กระทง แสดงว่าจำเลยกระทำโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งยังขาดจริยธรรมของการเป็นครู ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กำหนดโทษจำคุกกระทงละ 8 ปี นับว่าเป็นการเหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะกำหนดโทษเบาลงกว่านี้อีก